ปฏิปทาหลวงปู่เนตร
- รายละเอียด
- เขียนโดย Super User
- หมวด: วัดแหลมสัก
ปฏิปทาหลวงปู่เนตร จิรปุญโญ
วัดแหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่
        พื้นเพเดิมของหลวงปู่เนตร ท่านเป็นลูกชาวนา ความทุกข์ยากในหาอยู่หากินเลี้ยงตนเองและครอบครัว ทำให้ท่านเกิดความคิดที่อยากจะออกบวชเพื่อแสวงหาทางพ้นทุกข์ตามแนวทางขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
นับว่าหลวงปู่ท่านเป็นบุคคลที่สมดั่งบาลีซึ่งกล่าวไว้ในมงคลสูตรว่า ปุพเพ จะ กะตะปุญญะตา อันมีความหมายว่า ความเป็นผู้มีบุญอันกระทำไว้ชอบแล้วในกาลก่อน
ท่านเล่าว่า ขณะไถนาก็คิดพิจารณาอยู่เสมอว่า ชีวิตนี้ลำบากมีทุกข์มาก จนกระทั่งวันหนึ่งเกิดอยากจะสละเพศฆารวาสออกบวชรื้อถอนภพชาติตัดวัฏฏสงสารอันไม่สุดสิ้น
ในที่สุดท่านก็ขออนุญาตบิดามารดาบวช ขณะนั้นหลวงปู่แต่งงานมีครอบครัวและมีลูกสาว ๒ คน เมื่อตั้งใจสละทางโลก ท่านก็มอบทรัพย์สมบัติที่มีอยู่แก่ภรรยาและลูกๆทั้งหมด จากนั้นก็ออกบวชตามที่ตั้งใจไว้อย่างมุ่งมั่น
หลวงปู่เนตรบวชในปี ๒๔๙๕ เมื่ออายุ ๒๗ ปี ณ อุทกุกเขปสีมา (สีมาน้ำ) ในคลองกระโสม (วัดสันติวราราม) ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา โดยมี หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี เป็นพระอนุสาวาจารย์ จากนั้นท่านก็ได้ไปจำพรรษาที่วัดเจริญสมณกิจ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตั้งแต่พรรษาที่ ๑-๓ โดยมีหลวงปู่เทสก์เป็นพระอาจารย์
ตลอดระยะเวลาในเพศพรรชิต หลวงปู่ท่านยึดธรรมวินัยของพระพุทธองค์เป็นวิหารธรรมอย่างเคร่งครัด อันจะเห็นได้จากข้อวัตรในปัจจุบันของท่าน ซึ่งจะปฏิบัติตามธรรมวินัยของพระพุทธองค์และปฏิปทาของครูบาอาจารย์ที่ได้อบรมสั่งสอนมาอย่างไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่ข้อเดียว อันเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ทั้งหลายที่ได้ท่านเป็นครูบาอาจารย์
หลวงปู่ท่านเคยออกเที่ยววิเวกธุดงค์ร่วมกับหลวงปู่พรหมมา ในจังหวัดภูเก็ต-พังงา-กระบี่ ถึง ๗ ปี ท่านเล่าว่าทุกแห่งที่ท่านเที่ยวรุกขมูลไปตามที่ต่างๆในสมัยนั้นเต็มไปด้วยความยากลำบากเพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ยังเป็นป่ารกชัฎ
ท่านเคยเร่งทำความเพียรอย่างอุกฤษฎ์และทรมานกิเลสในใจด้วยการอดข้าวและอดนอนเป็นระยะเวลานานๆ เช่นเดียวกับสมณเพศผู้มุ่งตรงต่อมรรคผลอย่างไม่เคยยอมอ่อนข้อให้กับความยากลำบากใดๆทั้งปวง แต่ท่านพบว่ามันไม่ถูกกับจริตของตัวเองในการอดอาหารและอดนอน จึงเปลี่ยนมาเป็นการขบฉันให้น้อยลงและนอนแต่พอสมควร ซึ่งการปฏิบัติเช่นนี้ส่งผลทำให้จิตใจของท่านเบาสบายและปฏิบัติธรรมได้ก้าวหน้ากว่าเดิมมาก
ในอดีตหลวงปู่ท่านทำความเพียรอย่างต่อเองไม่เคยสนใจต่อวันเวลา ท่านเล่าว่า หลังจากฉันอาหารเสร็จ ทุกวันท่านจะเดินจงกรมตั้งแต่แปดโมงเช้าไปจนถึงตะวันตกดิน ความเด็ดเดี่ยวในการรื้อถอนภพชาติเช่นนี้ ท่านบอกว่า พอจะล้มตัวลงนอน แข้งขามันอ่อนล้าแสดงอาการถึงขนาดจัดที่นอนแทบจะไม่ทัน
หลังจากตัดสินใจออกจากเรือนมาแสวงหาทางพ้นทุกข์ หลวงปู่แทบจะไม่เคยกลับไปเยี่ยมครอบครัวเลย ท่านบอกว่า ชาวบ้านมักตำหนิพระว่า ออกจากบ้านแล้ว สละแล้ว จะกลับมาทำไม คงจะขนเงินกลับไปให้ที่บ้าน ท่านว่าถ้ากลับไปก็คงถูกชาวบ้านนินทาอย่างนี้แน่นอน ท่านจึงไม่เคยไปเยี่ยมบ้านเยี่ยมโยม เพราะเกรงจะถูกติฉินนินทาดังกล่าว ท่านจะกลับไปเมื่อญาติโยมเสียชีวิตเท่านั้น ท่านไม่เคยให้เงินทองแก่ญาติพี่น้องเลย ท่านบอกว่าญาติโยมเขาทำบุญถวายพระ เขาไม่ได้ให้โยม ถ้าเราเอาเงินทองไปให้ญาติพี่น้อง เขาก็ไม่เจริญรุ่งเรือง มีแต่จะพบความวิบัติตกต่ำ
หลวงปู่ท่านให้ความเมตตาต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุหรือญาติโยม ท่านบอกว่า ท่านรู้ดีว่าญาติโยมคนไหนช่วยเหลือวัด ช่วยดูแลท่านและพระในวัด แต่ท่านก็ไม่เคยแสดงออกให้เห็นว่า ท่านสนิทสนมกับญาติโยมคนไหนเป็นพิเศษ เพราะเกรงว่าญาติโยมคนอื่นอาจจะเสียใจว่าท่านเลือกที่รักมักที่ชัง ท่านปฏิยัติกับทุกคนอย่างเป็นกลาง และทำตามพระวินัยอย่างเคร่งครัด
ความมักน้อยสันโดษอยู่แบบตามมีตามได้อันเป็นวิถีของเพศบรรพชิตนั้น หลวงปู่ท่านปฏิบัติมาโดยตลอดการบวชของท่าน ท่านบอกว่า เรามีบาตรใบเดียว เที่ยวบิณฑบาตไปวันหนึ่งๆก็พอฉันแล้ว ท่านไม่อยากได้อะไรมากไปกว่านี้ ท่านบวชมาห้าสิบกว่าพรรษาไม่เคยสะสมปัจจัยเกิน ๒ หมื่นบาท ท่านมีปัจจัยเท่าไหร่ก็นำไปทำบุญหมด
ท่านเล่าว่า เวลามีกิจนิมนต์ไปสวดศพ ท่านไม่เคยคิดว่าอยากจะได้ปัจจัยจากเจ้าภาพ ท่านบอกว่า ท่านตั้งใจจะไปช่วยงานเขามากกว่าจะไปรับปัจจัย หลวงปู่ท่านปฏิบัติตนเป็นผู้ให้อยู่เสมอ ท่านไม่เคยประพฤติตนเป็นผู้รับ การประพฤติปฏิบัติเพื่อมุ่งต่อลาภยศสรรเสริญใดๆนั้น เป็นสิ่งที่หลวงปู่ไม่เคยให้ความเกี่ยวข้องผูกพัน ท่านบอกว่า ท่านอยู่อย่างนี้ ท่านมีความสุขแล้ว ท่านไม่อยากดัง ไม่อยากมีชื อเสียง ท่านบอกว่า "ถ้าผมอยากดัง อยากมีชื่อเสียง ผมและพระในวัดรับรองไม่มีที่อยู่แน่ ถ้าเป็นแบบนั้นผมและพระในวัดจะมีความสุขไหม ผมคิดว่าชื่อเสียงทำให้เราทุกข์ ผมชอบอยู่เงียบๆแบบนี้ ผมมีความสุขมากกว่า"
แม้ท่านจะเป็นพระเถระผู้ใหญ่มานานปีแล้ว หลวงปู่ท่านก็คงปฏิบัติตนเช่นเดียวกับพระบวชใหม่ ท่านทำงานงานทุกอย่างในวัดแบบไม่ยึดตัวถือตน อีกทั้งยังเป็นคนที่ทำงานรวดเร็วว่องไวและช่วยเหลือตัวเองอยู่เสมอ ท่านเล่าว่า ต่อนท่านพรรษายี่สิบกว่าท่านยังหาบน้ำใช้เองอยู่เลย ท่านบอกว่า ท่านชอบทำอะไรด้วยตัวเองแบบนี้มากกว่า
ข้อวัตรปัจจุบันของหลวงปู่ ท่านมักชอบจะอยู่แบบสันโดษไม่คลุกคลีกับผู้ใดมาก และใช้เวลาเดินจงกรมอยู่เสมอ แม้ว่าสังขารจะไม่เอื้ออำนวยนัก ท่านก็ยังทำความเพียรต่อเนื่องครั้งละครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมง ท่านบอกว่าเดินนานๆไม่ไหวแล้ว ขามันอ่อน และนั่งภาวนานานก็ไม่สะดวกเช่นแต่ก่อน
ท่านเล่าว่า ทุกวันนี้เวลาท่านภาวนาแล้วจิตสงบ แต่พอออกจากสมาธิ ท่านล้มหงายศรีษะฟาดขอบเตียงเลย ท่านบอกว่าพิจรณาแล้วร่างกายคงจะรับไม่ไหว แต่ท่านก็ยังคงภาวนาในอิริยาบถสี่ ยืน เดิน นั่ง นอน สลับกันไปตลอด ๒๔ ชั่วโมง ท่านบอกว่าท่านทำความเพียรครั้งละหลายชั่วโมงเหมือนในอดีตไม่ไหวแล้ว
ในฐานะความเป็นครูบาอาจารย์ หลวงปู่ท่านเป็รครพูดน้อย ปฏิบัติมาก ท่านมักจะปฏิบัติให้ดูมากกว่าจะออกคำสั่งให้ทำ และมีความละเอียดละออในทุกเรื่อง
หลวงปู่เป็นครูบาอาจารย์ที่สมควรแก่การเคารพกราบไหว้ ท่านเป็นเนื้อนาบุญที่สมบูรณ์ยิ่ง ท่านปฏิบัติตามมรรคาที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้เป็นแบบอย่าง และดำเนินตามแนวทางที่พ่อแม่ครูอาจารย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เป็นพระสุปฏิปันโนโดยแท้จริง
ปฏิปทาของหลวงปู่ที่ทำให้ซาบซึ้งและเคารพในตัวท่านเป็นอย่างยิ่งก็คือ ท่านเป็นผู้รักษาธรรมวินัยที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้เป็นแนวทางปฏิบัติโดยเคร่งครัด ความสมบูรณ์ในข้อวัตรปฏิบัติของหลวงปู่ยากที่จะบรรยายออกมาเป็นตัวอักษร ต้องมาอยู่ใกล้ชิดกับท่านถึงจะประจักษ์ในสิ่งที่ได้บรรยายอย่างครบถ้วน
ร่วมทำบุญบริจาคได้ที่

หรือ


 ผ่านพร้อมเพย์
 วัดมหาธาตุแหลมสัก 
 สแกนบริจาคได้ทุกธนาคาร 
หรือ
 ธนาคารกรุงเทพ
ธนาคารกรุงเทพ
สาขาอ่าวลึกจังหวัดกระบี่
เลขที่บัญชี 403-301606-6
บัญชี วัดแหลมสัก
 ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารกรุงไทย
สาขาอ่าวลึกจังหวัดกระบี่
เลขที่บัญชี 818-014971-4
บัญชี วัดแหลมสัก
 ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารกรุงไทย
สาขาอ่าวลึกจังหวัดกระบี่
เลขที่บัญชี 818-601433-0
บัญชี วัดแหลมสัก
 ธนาคารธนชาต
ธนาคารธนชาต
สาขาอ่าวลึกจังหวัดกระบี่
เลขที่บัญชี 379-2-14545-7
บัญชี วัดแหลมสัก (สร้างเจดีย์)
 ธนาคารออมสิน
ธนาคารออมสิน
สาขาอ่าวลึก
เลขที่บัญชี 020232571545
บัญชีเผื่อเรียก วัดมหาธาตุแหลมสัก ต.แหลมสัก
 ธนาคารออมสิน
ธนาคารออมสิน
สาขาอ่าวลึก
เลขที่บัญชี 0000722736
บัญชีกระแสรายวัน วัดมหาธาตุแหลมสัก
 ธนาคารเกียรตินาคิน
ธนาคารเกียรตินาคิน
สาขากระบี่
เลขที่บัญชี 00352510007487
บัญชีออมทรัพย์ วัดแหลมสัก
 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
สาขาอ่าวลึก
เลขที่บัญชี 020245357466
บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ วัดมหาธาตุแหลมสัก
 
          